ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ในพื้นที่อำเภอบางละมุง เป็นเวลาติดต่อกันกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้มีปริมาณน้ำเอ่อขึ้นท่วมขังสูงสุดมากกว่า 90 เซนติเมตร ส่งผลให้ถนนเส้นหลักรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ โดยเฉพาะถนนเส้นที่มีน้ำท่วมขังเป็นประจำหากเกิดฝนตกติดต่อกันนานกว่าครึ่งชั่วโมง อาทิเช่นถนนเส้นเลียบทางรถไฟช่วงบริเวณเขาตาโลถึงวัดธรรมสามัคคี ถนนสุขุมวิทพัทยาใต้มุ่งหน้าพัทยาพัทยากลาง ถนนถนนเฉลิมพระเกียรติช่วงแยกเพนียดช้าง หรือแยกมุมอร่อย ถนนเลียบชายหาด พัทยา
โดยเจ้าหน้าที่กิจการพิเศษเมืองพัทยานำกำลังมาอำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ ประชาชนตามจุดต่างๆที่มีมวนน้ำทะลักขึ้นท่วมขังรอการระบาย โดยห้ามรถเล็กทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์สัญจรผ่าน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย รวมไปถึงการป้องกันการเกิดอันตรายซึ่งมีรถยนต์หลายคัน เลือกที่จะฝากกระแสน้ำแทนการหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ส่งผลให้น้ำเข้าไปในเครื่องยนต์จนรถดับ อยู่กลางมวลน้ำที่ท่วมสูงมิดฝากระโปรงรถได้รับความเสียหาย
สอบถามนายศุภชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี เล่าวินาทีระทึกในระหว่างที่เกิดตกลงมาอย่างหนัก ตนเองซึ่งไม่ชำนาญเส้นทางมากับแฟนสาวสองคนไม่รู้ว่ามีปริมาณน้ำท่วมสูง ขณะที่ตนเองประคองรถมาตามถนนเส้นเลียบทางรถไฟ รถเกิดรอยและถูกกระแสน้ำพัดตกล่องน้ำข้างทาง ตนเองและแฟนสาวต้องรีบปีนกระจกออกมาจากตัวรถแล้วพากันเดินลุยน้ำสูงกว่าครึ่งเอว เพื่อนที่เอาตัวรอดปล่อยให้รถค่อยค่อยไถลจมลงไปในน้ำโชคดีที่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำฝนเริ่มซาลงแต่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เป็นไปตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศไว้ล่วงหน้า ว่าจะมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกระหว่างวันที่ 17 – 23 กันยายน พ.ศ. 2567
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในพื้นที่เมืองพัทยาช่วงเวลา 08.00 น.วันที่ 18 ก.ย.67 ในพื้นที่น้ำท่วมขังจุดที่ 1 บริเวณถนนทางหลวง จุดที่ 2 ถนนเลียบทางรถไฟหลังซอยวัดธรรมสามัคคี ถนนพัทยาสาย 3 พบว่าจุดดังกล่าว ปริมาณน้ำท่วมขังได้ลดลง จนกลับคืนสู่สภาวะปกติเป็นที่เรียบร้อย โดยใช้เวลาไม่นานก็สามารถระบายน้ำที่ท่วมขังได้ และคืนพื้นถนนให้ประชาชน ที่ใช้รถใช้ถนนได้ตามปกติแล้ว
Views: 2