จากกรณีที่คณะรัฐบาลได้มีการเปิดเผยแผนความคืบหน้าของโครงการการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ “โครงการเงินดิจิทัล” โดยมีการระบบการดำเนินการรับเงินเป็นการรับเงินผ่านช่องทางดิจิทัลวอลเล็ตโดยมีการเปิดให้ลงทะเบียนผ่านทางแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ตามเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลก็ได้เปิดเผยถึงการดำเนินการจ่ายเงินดังกล่าวไปแล้ว
โดยล่าสุดได้ถูกเลื่อนผลการรับสิทธิจากวันที่ 22 ก.ย.2567 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” จะขึ้นข้อความว่า “ระบบจะประกาศผลการลงทะเบียน ในระยะเวลาตามที่นโยบายจากทางรัฐบาลกำหนด” ส่วนผู้ที่มีสิทธิ ได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ก่อนตั้งแต่วันที่ 25-30 ก.ย.2567 จะเป็นผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน จำนวน 12.4 ล้านคน และผู้ที่ได้รับเบี้ยคนพิการจำนวน 2.1 ล้านคน โดยไม่ต้องลงทะเบียนเพียงแค่ผูกบัญชีพร้อมเพย์เชื่อมกับบัตรประชาชน ก็สามารถรอรับการโอนเงินสดเข้าบัญชีได้เลย ซึ่งในส่วนนี้ก็ยังมีพี่น้องประชาชนในหลายๆส่วนและในหลายๆพื้นที่ที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบของการรับเงินที่สมบูรณ์ตามเงื่อนไขทำให้ต้องมาลงทะเบียนสมัคร “พร้อมเพย์” เพิ่มเติมกันเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังธนาคารกรุงไทย สาขาซอยเนินพลับหวาน พบว่าบรรยากาศในวันนี้มีพี่น้องประชาชนที่เข้ามาใช้บริการในการลงทะเบียนพร้อมเพย์เพิ่มเติมเพื่อรอรับเงินดิจิทัลตามโครงการของรัฐบาลกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน และผู้ที่ได้รับเบี้ยคนพิการ ที่มาลงทะเบียนกันในครั้งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่พนักงานธนาคารที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนยืนยันตัวตนเพื่อเข้าระบบ
หนึ่งในเสียงสะท้อนซึ่งเป็นแม่ค้าประกอบอาชีพค้าขายก็ได้เปิดเผยว่าการดำเนินการลงทะเบียนของโครงการนี้ก็ได้มีการลงทะเบียนที่ไม่ค่อยยุ่งยากแต่ค่อนข้างใช้ระยะเวลานานในการสรุปโครงการเพื่อดำเนินการต่อ ส่วนในเรื่องของถ้าหากว่าได้รับเงินจำนวนนี้มาแล้วก็อาจจะนำไปใช้เพียงแค่เป็นเงินประทังในการช่วยใช้จ่ายค่าครองชีพและซื้อเครื่องอุปโภคบริโภครวมไปถึงซื้อของซื้อของขายเนื่องจากตนเองประกอบอาชีพค้าขาย
นอกจากนี้อีกหนึ่งเสียงก็ยังเปิดเผยว่าการดำเนินการลักษณะนี้ค่อนข้างยุ่งยากจึงอยากฝากถามถึงรัฐบาลว่าทำไมถึงไม่ดำเนินการในการโอนสิทธิให้กับผู้ที่ถือบัตรในแต่ละบัตรตามเงื่อนไขได้เลยเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ก็ได้เปิดเผยว่าหากได้รับเงินจากโครงการนี้มาก็คงจะนำเงินมาใช้ในการประทังค่าครองชีพและซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนต่อไป จะเห็นได้ว่ามีเสียงสะท้อนต่างๆมากมายของพี่น้องประชาชนที่อยากฝากถึงการดำเนินการของโครงการนี้
ทั้งนี้สำหรับการจ่ายเงินในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต สำหรับกลุ่มเปราะบางจำนวน 14.5 ล้านคน คนพิการ 2.1 ล้านคน จะได้รับเงินกลุ่มแรก ในเฟสแรก ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับเงิน 10,000 เฟสแรก แบ่งเป็นผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ เริ่มโอนตั้งแต่วันที่ 25-30 ก.ย.2567 เป็นการโอนเงินเข้าสู่ระบบพร้อมเพย์ที่เชื่อมเลขบัตรประชาชน โดยแบ่งโอนเฉลี่ยวันละ 4-5 ล้านคนต่อไป
Views: 0